วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

1.    1.  ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ  
ด้านการศึกษา
1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชา หรืออ่านหนังสือออนไลน์
2. ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดออนไลน์
3. นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเตอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น
4. สามารถทำการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
ด้านการพาณิชย์
1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
3. ทำการตลาดการโฆษณาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น
ด้านการบันเทิง
1. การพักผ่อนหย่อนใจ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อ่านหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ
2. การเล่นเกมออนไลน์
3. สามารถฟังวิทยุหรือดูการถ่ายทอดสดผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
4. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในระบบอินเตอร์เน็ตยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย พอจะสรุปได้ว่า อินเตอร์เน็ต มีความสำคัญ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย การติดต่อสื่อสารที่สะดวก และรวดเร็ว แหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานไอที ทำให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจ และบริหารงานทั้งระดับบุคคลและองค์กร
ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลก่อให้เกิดประโยชน์มากมายได้แก่
ด้านการติดต่อสื่อสาร เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการพูดคุยด้วยการส่งสัญญาณภาพและเสียง
เป็นระบบสื่อสารพื้นที่จำลอง (Cyberspace) ไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา เชื้อชาติ ระบบการปกครอง กฎหมาย
มีระบบการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
สามารถค้นหาข้อมูลในด้านต่างๆ ได้ผ่านบริการ World Wide Web
การบริการทางธุรกิจ เช่น สั่งซื้อสินค้า หรือการโฆษณาสินค้าต่างๆ
การบริการด้านการบันเทิงต่างๆ เช่น การดูภาพยนตร์ใหม่ๆ การฟังเพลง ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การเกมออนไลน์ เป็นต้น

2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
   2.1  โรคติดอินเตอร์เน็ต
ตอบ บุคคลใดที่มีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4ประการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี แสดงว่าเป็นอาการติดอินเทอร์เน็ต
-รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต
-มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้นอยู่เรื่อยๆ
-ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้
-รู้สึกหงุดหงิดเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง หรือหยุดใช้
-คิดว่าเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว ทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น
-ใช้เป็นอินเทอร์เน็ตในการหลีกเลี่ยงปัญหา
-หลอกคนในครอบครัว หรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตนเอง
-มีอาการผิดปกติเมื่อเลิกใช้อินเทอร์เน็ต เช่น หดหู่ กระวนกระวาย

   2.2   เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
ตอบ  เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆนั้นเป็น เรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอร์เน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้สื่อเหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้

   2.3   ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา 
ตอบ   ไวรัส : เป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำลายข้อมูลหรืออาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วยความจำหรือ พื้นที่ว่างบนดิสก์โดยพลการ 


หนอนอินเทอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง


ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำงานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542


 ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรม ที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไปให้ผู้เขียนโปรแกรม
             นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลายเป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำลายระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้

   2.4  และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ 
ตอบ 
มีข้อมูลที่มีผลเสียเผยแพร่อยู่ปริมาณมาก
ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทำให้การค้นหากระทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริง ต้องดูให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลั่นแกล้งจากเพื่อนใหม่
ถ้าเล่นอินเตอร์เน็ตมากเกินไปอาจเสียการเรียนได้
ข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมาะกับเด็กๆ
3. ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ 
ตอบ
ข้อสอบ 10 ข้อ เรื่อง อินเทอร์เน็ต
1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่บ้านต้องเชื่อมผ่านอุปกรณ์ใด
ก.  โมเด็ม    ข. เราท์เตอร์   ค. ทีซีพี      ง. โปโตคอล
2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีกี่รูปแบบ
ก.  2 รูปแบบ     ข. 3 รูปแบบ       ค. รูปแบบ      ง. 5 รูปแบบ
3. การกำหนดรหัสผ่าน  Password  ควรใช้กี่ตัวอักษร
ก.  มากกว่า 3 ตัว         ข. มากกว่า 4 ตัว  ค. มากกว่า 5 ตัว  ง. มากกว่า 6 ตัว
4. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน
ก.เครื่องคอมพิวเตอร์     ข.โมเด็ม       ค. โทรศัพท์      ง.เราท์เตอร์ 
5. อินเทอร์เน็ต  หมายถึง
ก. การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย             ข. การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับบุคคล
ค.การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับองค์กร     ง. การเชื่อมต่อกันระหว่างองค์กรกับองค์กร
6.ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ คือข้อใด
ก. Chat       ข. E -mail          ค. Net                 ง.  Web
7. บริการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป สามารถใช้บริการใด
ก. Download      ข. FTP         ค. Telnet            ง. BBS
8. การบริการในลักษณะของกระดานข่าวหรือบูเลตินบอร์ด คือข้อใด
ก. UseNet           ข. Download     ค. IRC            ง.Chat
9. ข้อใดไม่ใช่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์  ข. โมเด็ม   ค. โทรศัพท์    ง. โทรทัศน์
10.การเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบุคคลสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์โดยใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงคือ
ก.  ทีซีพี           ข.โมเด็ม    ค.. เราท์เตอร์      ง. โปโตคอล

เฉลย
1.      2.      3.      4.      5.
6.      7.      8.      9.      10.


วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดที่ 4
เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)

1.ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ  Web directory , Meta  search,  Search  engine
ตอบ     Web Directory (เว็บไดเรคทอรี่) หรือ Directories บางทีเรียกว่า Link Directory คือ ระบบที่เก็บรวบรวมเว็บไซต์ไว้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ ได้ด้วย เว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม จะต้องมีหัวเรื่องหรือเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน เว็บไดเรคทอรี่บางแห่งทำหน้าที่เป็น Search Engine ในตัวเองด้วย บางแห่งมีฟังก์ชั่นให้โหวตหาคะแนนนิยมของเว็บเพื่อจัดอันดับ
 Meta  search   จะเป็น Search Engine ที่ใช้ในการค้นหาเว็บ ด้วยตัวของ Search Engine แบบ Metasearch Engines เองแล้ว แต่ที่เด่นกว่านั้นคือ
Search Engine แบบ Metasearch Engines จะยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search Engine
อื่น ๆ ค้นพบ โดยสังเกตได้จาก จะมีคำว่า [Found on Google, Yahoo!] ต่อทางด้านท้าย นั้นก็หมายความว่าการค้นหา ข้อความนั้น ๆ มาการเชื่อม
โดยไปค้นข้อมูลจาก เว็บ Google และ Yahoo แต่การค้นหา ด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะ
ไม่ค้นหาคำประเภท Natural Language (ภาษาพูด) และที่สำคัญ Search Engine แบบ Metasearch Engines ส่วนมากไม่รองรับภาษาไทย
http://www.dogpile.com และ http://www.kartoo.com/
Search Engines   เป็นเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ  (Robot)
ในการค้นหา และรวบรวมข้อมูล ของเว็บไซต์ต่างๆ  เว็บไซต์ประเภทนี้จะเหมาะสำหรับการค้นหา
ข้อมูลแบบจำเพาะเจาะจง ตัวอย่างการค้นหาข้อมูล โดยใช้เว็บประเภท  โดยใช้เว็บไซต์  ซึ่งทำได้โดยคลิกเมาส์เลือกชื่อของหมวดหมู่เว็บที่น่าสนใจ  จากนั้นชื่อเว็บที่ต้องการก็จะปรากฏขึ้น



2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ  การใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว  จะได้ผลการสืบค้นได้เพียงเว็บเดียว
          การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google  จะได้ผลการสืบค้นได้หลายเว็บเดียว

3.ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา  จงอธิบายความแตกต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ  AND เป็นการให้คำที่เราต้องการค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ ทั้งสองคำ ที่อยู่ระหว่าง “AND”
เช่น ค้นหาคำว่า computer AND ram ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องมีคำว่า computer และ ram ทั้งสองคำนี้ปรากฏอยู่ เป็นค้น
OR เป็นการให้คำที่เราต้องค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ คำใดคำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่าง “OR”
เช่น ค้นหาคำว่า computer OR ram ผลลัพธ์ที่ได้จะมีคำว่า computer หรือ ram คำใดคำหนึ่ง หรือทั้งสองคำปรากฏอยู่ เป็นค้น

4.Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ   มีไว้ค้นหา บทความ หรือ งานวิจัย โดยเฉพาะ

5.Google Guru  มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ  มีไว้ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อให้คนที่มีความรู้มาตอบ และเพื่อเอาคำตอบไปใช้อย่างรวดเร็ว

6.iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ  I Google เป็นฟังค์ชันที่ Google ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ใช้ I Google เราสามารถปรับแต่งหน้าต่าง I Google ของเรายังไงก็ได้ สามารถดูสภาพอากาศของจังหวัดต่างๆได้ สามารถจดบันทึกข้อความก็ได้ ดูข่าวสาร สาระน่ารู้ ก็ได้อีกเหมือนกัน สามารถ chat พูดคุยกับเพื่อนก็ได้ อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เราต้องการไม่ให้ซ้ำใครอีกด้วย

7.จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google  ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัครอย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)
ตอบ  เมื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
– สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
– สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
– สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
– สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร
• เทคโนโยลีการส่งข้อมูลแบบไร้สาย
1. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการส่งข้อมูลแบบ Infrared กับ Bluetooth
ตอบ Bluetooth เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายส่วนบุคคล (Bluetooth) เป็นการส่งข้อมูลในระยะทางสั้น โดยที่เครื่องส่งสัญญาณจะต้องมีอุปกรณ์ในการส่งสัญญาณ Bluetooth ฝังอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์จะใช้ กับเครื่องส่งสัญญาณที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลักในระยะใกล้กัน
Infrared ระบบการสื่อสารไร้สาย (wireless) อีกรูปแบบหนึ่ง ลำแสงอินฟราเรด (Infrared : IR) คือส่วนหนึ่งของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า ในย่านความถี่ของแสงต่ำกว่าแสงสีแดง ที่ตาของคนเราไม่สามารถมองเห็น เป็นลำแสงอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อการสื่อสารในระยะใกล้ โดยมีระยะในการส่งสัญญาณ 30 -80 ฟุต
2. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการส่งข้อมูลแบบ Wi-Fi กับ Wi-Max
ตอบ Wi-Fi มากจากคำว่า Wireless Fidelity ซึ่งเป็นชื่อที่ทำเป็นเครื่องหมายการค้าของอุปกรณ์ที่ใช้มาตรเครือข่าย IEEE802.11 ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Wireless LAN ซึ่งเป็นวิธีการในการส่งผ่านข้อมูลไร้สายโดยอาศัยคลื่นวิทยุที่ความถี่ 2.4Ghz และ 5Ghzปัจจุบัน มาตรฐานที่นิยมใช้คือIEEE802.11g ซึ่งมีอัตราการส่งผ่านข้อมูล 54 เมกะบิตต่อวินาที่ผ่านคลื่นความถี่ 5Ghz
Wimax มาจากคำว่า Worldwide Interoperability for Microwave Access ใช้มาตรฐานIEEE802.16 ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Wireless MAN ใช้วิธีการส่งผ่านข้อมูลไร้สายระยะทางไกล
3. จงอธิบายคำศัพท์ 2 คำนี้ Access Point กับ Hot Spot
ตอบ Access Point คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับ switching hub ของระบบเครือข่ายปกติค่ะ โดย access Point ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลทางคลื่นความถี่กับ Wireless Card ซึ่งติดตั้งบนเครื่องของผู้ใช้แต่ละคน Access Point หมายถึง อุปกรณ์จุดเข้าใช้งานเครือข่ายไร้สาย ทําหน้าที่รองรับการเชื่อมโยงจากเครื่องลูกข่าย
Hot Spot คือ บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายแบบสาธารณะความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยีของ
Wireless LAN หรือ ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้บริการกันมากขึ้นเรื่อยตามแหล่งธุรกิจ
อาทิ สนามบิน โรงแรม ร้านอาคาร ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และ อาคารสำนักงาน โดยใช้เทคโนโลยี บรอดแบนด์ผสมผสานกับเทคโนโลยีไรสาย (WI-FI) ทำให้คุณออนไลน์ได้ทุกที่รับส่งอีเมล์ดาวน์โหลดข้อมูล หรือติดต่อธุรกิจกับใครๆได้อย่างสะดวกสบายในสถานที่ที่บริการ Hot Spot
4. จงอธิบายความแตกต่างระหว่าง 1G/ 2G/ 2.5G/ 2.75G/ 3G/ 4G
ตอบ 1G(First Generation) ระบบสื่อสารไร้สายที่ใช้เทคโนโลยีระบบอนาล็อก สามารถบริการด้านเสียงเท่านั้นและสัญญาณเสียงก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่
2G (Second Generation ) การสื่อสารไร้สายด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิตอล คุณภาพด้านเสียงจะมดีกว่ายุค 1G และสามารถรับ-ส่งข้อมูลแบบ (circuit-switch) ด้วยความเร็วที่ระดับ 9.6 – 14.4 Kbps
2.5G อยู่กึ่งกลางระหว่าง 2G และ 3G มีระบบ GPRS (General Packet Radio Service) เพิ่มขึ้นมา GPRS สามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุด 115 Kbps (1G ส่งข้อมูลได้ 9 Kbps ) แต่ในบ้านเราใช้ได้แค่ 40 Kbps โดย 2.5Gมีการพัฒนาให้เครื่องมือสื่อสารมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แต่เป็นอินเตอร์เน็ตความเร็วต่ำ ดาวโหลดได้ช้าและได้จำนวนน้อย
2.75G เป็นการเริ่มใช้เทคโนโลยี EDGE (Enhanced Data rates for Global Evolution) ต่อยอดจาก GPRS เป็นการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพความเร็วจากพื้นฐานของ GPRS ให้มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงขึ้น มีความเร็วระดับกว่า 40 Kbpsในระบบ 2G ถึง 4 เท่าตัว
3G เป็นระบบเครือข่ายไร้สายรุ่น ที่ทำงานบนพื้นฐานของระบบ IP ( Internet Protocol ) การดาวโหลดและอัพโหลดข้อมูลปัจจุบันอยู่ที่Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps ในอนาคตมีแนวโน้มว่า จะมากถึง 42 Mbps เทคโนโลยีในยุค3Gก็มีสายพัฒนามาจากในยุคก่อนๆ เทคโนโลยีในยุค 3G ได้แก่: CDMA2000,W-CDMA,TD-SCDMA,TDMA,IMT2000
4G ( Forth Generation ) พัฒนาต่อยอดจาก 3G เป็นการประยุกต์เอารูปแบบการสื่อสารทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพมารวมกันเป็น ระบบเดียว รูปแบบและระบบการทำงานบางอย่างเหมือนกับ 3G แต่มีการเพิ่มขีดความสามรถการรับส่งข้อมูล ความเร็วสูงมากกว่าระบบ 3G ที่เพิ่มขึ้นถึง 100 Mbps
ต่างตรงที่ 1)ความเร็วของเครือข่าย 2)ออนไลน์ตลอดเวลา(ถ้ามันเป็น3Gเต็มตัว) 3)อุปกรณ์เครือข่ายส่งข้อมูลแบบแพ็กเกจสวิตชิ่งเหมือนอินเตอร์เน็ต(เครือข่ายต่างๆเลยไม่อยากเปลี่ยนเป็น3Gเพราะมันต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายเกือบทั้งหมดเพื่อให้เป็น 3G เต็มตัว)
5. การโจรกรรมข้อมูลโดยใช้เทคนิค Evil Twin เป็นอย่างไร
ตอบ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เพื่อขโมยข้อมูลจากผู้ใช้งาน Wi-Fi ที่ขาดความระมัดระวัง โดยแฮกเกอร์จะนำคอมพิวเตอร์มาแอบวางไว้ในสถานที่ที่มีจุดบริการ Wi-Fi สาธารณะ เมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราขึ้นมาใช้งาน โปรแกรมเพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่าย Wi-Fi ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็จะพบแอ็กเซสพอยต์ และถ้าเราเลือกเชื่อมต่อเข้าสู่แอ็กเซสพอยต์ของแฮกเกอร์ก็อาจจะสร้างระบบโปรแกรม เว็ปไซต์ หรืออื่นๆ ของแฮกเกอร์เองเพื่อหลอกให้เรากรอกข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เช่น ข้อมูลเอกลักษณ์บุคคลหรือข้อมูลใดๆ ที่แฮกเกอร์ต้องการเก็บลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของแฮกเกอร์และก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป